วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประวัติเกาะสมุย


ประวัติเกาะสมุย

   ในต้นสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เกาะสมุยเป็นเมืองส่งส่วยอากร ขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราช โดยมีที่ว่าการเมืองอยู่ที่บ้านดอนแตง ใกล้วัดประเดิม หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าเมืองอยู่ทางทิศใต้ของเกาะสมุยมีข้อความปรากฏในหนังสือ “ชีวิวัฒน์”พระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงนิพนธ์ไว้เป็นทำนองรายงานการเสด็จ ตรวจราชการหัวเมืองปักษ์ใต้ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปีวอกพ.ศ. 2427 ได้กล่าวถึงเกาะสมุยในขณะนั้นใจความตอนหนึ่งว่า
" ในหมู่บ้านเกาะสมุยนี้ ถ้าจะประมาณโรงเรือนราษฎรที่ตั้งอยู่ จะเป็นไทยประมาณ 400 หลังเศษ จีน 100 หลังเศษเป็นจำนวนคนซึ่งประจำอยู่ ณ เกาะนั้น ไทยประมาณ 1,000 คนเศษ จีนสัก 600 คนเศษ คิดทั้งคนจรไปมาตั้งบ้างไปบ้างจะเป็นคนรวมประมาณถึง 2,000 คน แต่คนในเกาะสมุยนั้น มาก ๆ น้อย ๆ เป็นคราว ๆ เป็นต้นว่าถึงฤดูสักเลก คนหลบหนีมาอยู่เกาะสมุยเป็นอันมาก ถ้าจะคิดในเวลาอย่างมากจะเป็นคนประมาณถึง 5,000-6,000 คน คนไทยนั้นเป็นคนชาวนอก กริยาน้ำใจ และเสียสละเป็นชาวนอก กริยา น้ำใจเสียสละ เป็นชาวนอกทั้งสิ้น มักจะบิดเบือน พูดจาไล่ไม่จนและเป็นคนเกรงกลัวอาญานายกดขี่เป็นต้น ถ้าจะถามสิ่งใดก็พูดจาอ้อมค้อมวนเวียน ปิดบัง เป็นธรรมดา หาจริงยาก.....พวกนั้นมักจะเป็นชาติไหหลำทั้งสิ้น.....ฯลฯ "
        เมื่อเกาะสมุยเป็นเมืองส่งส่วยแก่เมืองนครศรีธรรมราช เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ก็ส่งคนมาปกครองเกาะสมุยความอีกตอนหนึ่งในชีวิวัฒน์กล่าวว่า
       " เกาะสมุยนี้ มีตำแหน่งผู้ว่าราชการเป็นพระคนหนึ่ง คือนายฉิม ญาติพระยานครที่ตายเสียแล้ว ในเวลาบัดนี้ไม่มีตัวพระสมุยผู้ว่าราชการ มีแต่ปลัดอยู่คนหนึ่งเรียกว่า หลวงสมุยเป็นคนแก่อายุมาก" ชาวเกาะสมุยมักจะเรียกเจ้าเมือง เกาะสมุยว่า "ตาหลวงหมุย" และการปกครองสมัยเดิม เจ้าเมืองแต่ละคนจะอยู่จนแก่เฒ่า และเมื่อตายไปแล้วจะแต่งตั้งบุตรชายเป็นเจ้าเมืองแทนต่อไป
 
       ต่อมาเมื่อปลายปี พ.ศ.2510 อำเภอเกาะสมุยได้รับความช่วยเหลือจากคณะกรรมการพัฒนาภาคใต้อันมี ฯ พณ ฯ พันเอกถนัด คอร์มัน เป็นประธานคณะกรรมการ ได้มอบรถแทรกเตอร์ ที.ดี.4 ให้เกาะสมุยหนึ่งคัน พอถึงเกาะสมุย นายอำเภอดิลก สุทธิกลม (สมัยนั้น) ได้นำรถแทรกเตอร์คันนั้นไปปรับถนน บริเวณเขาหมาแหงนทันที ทั้งนี้โดยได้นิมนต์ พระมหาพิมล ฐานสุนทโร เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ต.ตลิ่งงามไปร่วมงานสร้างถนนนี้ด้วย เพราะพระมหาพิมล เป็นที่เคารพขอชาวเกาะสมุยมาก เมื่อท่านร่วมมือด้วยชาวบ้านก็มาช่วยกันเป็นจำนวนมาก จากนั้นการตัดทางเชื่อมตำบลมะเร็ตกับตำบลบ่อผุดโดยผ่านเขาหมาแหงนก็เริ่มขึ้น ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2510 เป็นต้นมา งานตัดถนนผ่านเขาหมาแหงนนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องระเบิดภูเขาจำนวนมาก


       ในปี 2512 เมื่อกรป.กลาง จัดส่งหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ออกปฎิบัติการที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้รับการขอร้องจากนายอำเภอ ให้สนับสนุนเครื่องมือในการทำทางก่อสร้างถนนรอบเกาะสมุย เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนถ่ายสินค้าไปยังท่าเรือซึ่ง กรป.กลาง ได้จัดส่งชุดเครื่องมือหนัก ประกอบด้วยรถเครื่องจักรทุ่นแรง จำนวน 5 คัน ไปดำเนินการปรับปรุงขยายผิวจราจร ให้ แต่การปรับปรุงและขยายผิวจราจรก็ดำเนนไปได้ไม่เร็วเท่าที่ควร เพราะเครื่องมือไม่เพียงพอ
 
       วันที่ 29 เมษายน 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จประพาสเกาะสมุย เป็นการส่วนพระองค์อีกครั้งหนึ่ง ณ บริเวณศาลาคอย อ่าวเฉวง ต่อมาในปลายปี 2515 ได้เกิดอุทกภัยกระหน่ำภาคใต้อย่างรุนแรง ในหลายจังหวัดโดยเฉพาะเกาะสมุย ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีเรือล่มถึง23 ลำ บ้านเรือนราษฎรพังเสียหาย 581 หลัง ต้นมะพร้าวโค่นล้มประมาณ 57,000 ต้น และต้นทุเรียนกว่า 8,000 ต้น คิดค่าเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 31 ล้านบาท เป็นเหตุให้ภาวะทางเศรษฐกิจของเกาะสมุยทรุดตัวลงเป็นอย่างมาก กรป.กลาง จึงได้จัดส่งชุดทหารช่างก่อสร้าง ออกเดินทางมายังเกาะสมุยในต้นปี 2516 เพื่อปฎิบัติการฟื้นฟูและก่อสร้างเส้นทางรอบเกาะสมุย โดยเริ่มปฎิบัติการฟื้นฟูเกาะสมุยและก่อสร้างเส้นทางโดยทันที ซึ่งปรากฎว่า การปฎิบัติงานในระยะเริ่มต้นเป็นไปได้ไม่รวดเร็วเท่าที่ควร เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ คือมีฤดูฝนถึง 6 เดือน และเป็นฝนชนิดที่ตกอย่างไม่มีเค้าบางวันไม่สามารถจะปฎิบัติงานได้ ยิ่งกว่านั้น การตัดถนนผ่านภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและโขดหิน จำเป็นต้องอาศัยการระเบิดหินเป็นส่วนใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนก็มิได้ท้อถอย คงพยายามปฎิบัติงานไปโดยเต็มความสามารถ อย่างไม่หยุดยั้ง
 
       ในปี พ.ศ. 2516 พลอากาศเอกทวี จุลทรัพย์ ได้สั่งให้หน่วยทหารช่างก่อสร้างที่ 4 ซึ่งมีเครื่องมือที่สมบูรณ์กว่าดำเนินการทดแทน ชุดทหารช่างก่อสร้างเกาะสมุยชุดเดิม หน่วยทหารช่างก่อสร้างที่ 4 ได้เคลื่อนย้ายเครื่องมือหนักเข้าที่ตั้งบนเกาะสมุยโดยทันที และเริ่มการก่อสร้างถนนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2516 เป็นต้นมา ถนนรอบเกาะสมุยที่หน่วยทหารช่างก่อสร้างที่ 4 ดำเนินการสร้างนี้ มีระยะทางยาวทั้งสิ้น 50.228 กิโลเมตร เป็นถนนมาตรฐานอัดดินแน่นเขตทางกว้าง 12 เมตร ซึ่งมีผิวจราจรกว้าง 6 เมตร กับไหล่ทางกว้างอีกข้างละ 1 เมตร ได้เริ่มตั้งต้นก่อสร้างจากหน้าที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย ลงไปทางใต้ผ่านพื้นที่ตำบลอ่างทอง, ตำบลลิปะน้อย, ตำบลตลิ่งงาม, ตำบลหน้าเมืองจนถึงบ้านหัวถนน แล้ววกไปทางทิศตะวันออก ผ่านตำบลมะเร็ตไปช่องเขาหมาแหงนทางทิศตะวันออก ต่อไปยังอ่าวท้องตะเคียน ช่องบุญตา พุ่งขึ้นไปทางทิศเหนือ ถึงตำบลบ่อผุด แล้วเลยไปทางทิศเหนือของเกาะสมุย ผ่านตำบลแม่น้ำ ไปเขาแหลมใหญ่ แล้วจึงวกกลับมาบรรจบกันกับจุดเริ่มต้น ณ ที่ว่าการอำเภอเกาะสมุยซึ่งอยู่ที่ตำบลอ่างทอง นับว่าถนนสายนี้ตัดผ่านทุกตำบล โดยเฉพาะทางด้านทิศใต้กับทิศเหนือตัดผ่านหมู่บ้านริมทะเล ที่มีทิวทัศน์อันสวยสดงดงาม โดยตั้งชื่อถนนรอบเกาะสมุยว่า " ถนนทวีราษฎร์ภักดี " ตามโครงการ และแผนที่ได้สำรวจ และประมาณการไว้นั้น ถนนสายนี้จะต้องสร้างสะพาน 15 แห่ง เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 สะพาน สะพานไม้ 12 สะพาน รวมความยาวของสะพานทั้งสิ้น 190 เมตร งานวางท่อระบายน้ำ 160 แห่ง และมีงานระเบิดหินบริเวณช่องเขาหมาแหงน ระหว่างท้องตะเคียน ถึงบ้านเฉวงน้อย อีกระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร  การสร้างทางรอบเกาะสมุยนี้มีอุปสรรคอยู่หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับสภาพดินฟ้าอากาศในภาคใต้ซึ่งมีฝนตกอยู่เสมอเกือบตลอดปี นอกจากนั้นเส้นทางนี้ยังมีแหล่งลูกรังจำกัดต้องขนลูกรังในระยะทางไกล ประกอบกับเส้นทางที่ตัดผ่านเขาหมาแหงนเลียบชายฝั่งทะเล เป็นบริเวณที่ยากแก่การทำถนนเพระต้องใช้ดินระเบิดทำการระเบิดหินก้อนใหญ่ ๆ หลายลูกติดกันในระยะทางยาวเกือบ 3 กิโลเมตร ในการก่อสร้างถนนรอบเกาะสมุย ของหน่วยทหารช่างก่อสร้างที่ 4 แม้จะประสบกับอุปสรรคหลายประการ แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาว เกาะสมุยเป็นอย่างดีในทุกๆ ด้านตลอดมา ทำให้การปฏิบัติงานสามารถฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรค ต่าง ๆ ลุล่วงไปด้วยดี

เเหล่งอ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น